ต่วย’ตูน
“ต่วย-ตูน” หนังสือน่าอ่านข้ามยุคสมัย มันไม่ใช่หนังสือการ์ตูนทั่วไป แต่แฝงไว้ด้วยเนื้อหาสาระ เรื่องราวมากมาย มีครบทุกอรรถรส ทั้งความสนุกสนาน เฮฮา และแฝงไปด้วยความรู้ต่างๆ เรียกได้ว่า เมื่อได้อ่านแล้ว ทำให้เราหูตากว้างไกลเลยทีเดียว นักเขียนต่วยตูนมีทั้งข้าราชการ วิศวกร นายช่าง นานาอาชีพเลยก็ว่าได้ ซึ่งเจ้าของต่วยตูนเป็นผู้เลือกสรรมาแล้วทั้งนั้น
“ต่วย-ตูน” เป็นนิตยาสารพ็อกเกตบุคส์รายปักษ์ รวมเรื่องสั้นและขำขัน
ซึ่งก่อตั้งโดย “คุณวาทิน ปิ่นเฉลียว” หรือ “ต่วย”
ที่มาของภาพ : http://www.flickr.com/photos/dinhin/6162131373
ที่มาของภาพ : http://www.sabuyjaishop.com
“ต่วย-ตูน” เป็นหนังสือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้ว ด้วยชื่อก็ดี หรือเนื้อหาก็ดี และมีมานานมากจะเรียกได้ว่าตั้งแต่ดิฉันยังเป็นเด็กเลยก็ว่าได้ และการที่ดิฉันหยิบยก “ต่วย-ตูน” ขึ้นมาวิเคราะห์ ก็เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของหนังสือเล่มนี้ บวกกับรูปเล่มและการออกแบบที่อยู่ยังคงกระพันมานานเป็นสิบๆปี ทำให้ฉันรู้สึกว่า หนังสือเล่มนี้มีดีอย่างไรถึงอยู่ได้นานขนาดนี้มาพิจารณากันเลยนะค่ะ
เมื่อเห็นต่วยตูน คุณคิดถึงอะไร ?
ตัวอักษรชื่อเรื่อง หรือภาพเก่าๆ ใช่ไหมค่ะ !
…ใช่แล้วค่ะ J
ที่มาของภาพ : http://kaimookbook.tarad.comproduct.detail_520292_th_2709839
แน่นอนค่ะ “ต่วย-ตูน” มีเอกลักษณ์ที่เด่นที่สุดคือ ตัวอักษร “ต่วย-ตูน” จะใช้ตัวอักษรเพียงหนึ่งหรือสองแบบตลอดชิ้นงาน การออกแบบให้มีภาพที่มีโครงสีคล้ายคลึงกัน หรือเลือกใช้สีจากชุดสีเดียวกันตลอดทั้งงานจะเห็นได้ว่าหนังสือ “ต่วย-ตูน” แต่ละเล่มจะมีสีพื้นที่เด่นหนึ่งสี และสีของรูปภาพก็จะเป็นสีที่เป็นโทนเดียวกันกับสีพื้น ตัวอย่างเช่น เล่มด้านบน จะมีสีพื้นเป็นสีเขียว และสีของรูปจะอยู่ในโทนเย็น ไปทางสีเหลือง ทำให้ภาพดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และงานที่ออกมามีการซ้ำกันของสี รูปร่างและพื้นผิวในที่ต่าง ๆ ตลอดทั้งงาน ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ที่ทำให้หนังสือ “ต่วย-ตูน” มีความเป็นเอกภาพ (Unity) ซึ่งเอกภาพจะทำให้งานออกแบบดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นส่วนช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือเล่มนี้เป็นงานชิ้นเดียวกัน และเป็นจุดเด่นของงานอีกด้วย
ต่อมาจะเป็นการเน้น (Emphasis) ที่ทำให้องค์ประกอบหนึ่งเป็นที่สังเกตเห็นก่อนส่วนอื่นๆ และแน่นอนค่ะ ดิฉันคิดว่าเอกลักษณ์ที่ตายตัวของ “ต่วย-ตูน คือตัวอักษรที่ไม่ว่าจะเป็นสีพื้นหรือเนื้อหาหนักหน่วงอย่างไร ตัวอักษรที่เสมือนเป็นโลโก้สีขาว ก็เป็นจุดเด่นที่เรียกความสนใจได้ไม่น้อย และการลดขนาดข้อความบนปกให้เล็กลง ก็ยิ่งทำให้ชื่อ “ต่วย-ตูน” เด่นขึ้นมาอีกป็นกอง เพราะด้วยความที่ตัวอักษรเป็นตัวใหญ่ และสีขาว บนพื้นสีต่างๆ ยิ่งทำให้ตัวหนังสือเด่นขึ้นมาเป็นทวีคูณ
ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อองค์ประกอบนั้นแตกต่างจากองค์ประกอบอื่น บนงานออกแบบทุกชิ้นควรมีจุดเด่นนี้เพื่อดึงดูดสายตาของผู้คนไปสู่ส่วนสำคัญของงาน แต่ถ้ามีจุดเด่นมากเกินไปก็อาจไม่เกิดผลตามที่ต้องการ
การเน้นจุดแห่งความสนใจ (Emphasis) หมายถึง การสร้างจุดแห่งความสนใจให้เกิดขึ้นในงานออกแบบ โดยการกำหนดบริเวณใดบริเวณหนึ่งในภาพที่เหมาะสม ให้มีลักษณะพิเศษกว่าบริเวณอื่น เพื่อให้ดึงดูดความสนใจแก่ผู้อ่าน
ที่มาของภาพ : http://www.vrasubooks.com
เมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ ดิฉันเชื่อว่าคุณจะต้องรู้ถึงความมีระเบียบแบบแผน และความอนุรักษ์นิยม ความรู้สึกมั่นคง แข็งแรง นั่นก็เพราะหนังสือเล่มนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องของสมดุลของภาพที่ไม่ว่าจะมีภาพหรือข้อความมากมายขนาดไหน คุณก็จะเห็นทุกอย่างที่จัดออกมาอย่างเป็นระบบระเบียบ กล่าวรวมๆไปถึงความมีสัดส่วน ขนาด น้ำหนัก ฯลฯ ทั้งด้านซ้ายและขวา ตัวอย่างเช่นภาพด้านบน มีความสมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) "ความสมดุลโดยองค์ประกอบภาพ" ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกำหนดจุดศูนย์กลางของชิ้นงาน และการตีกรอบภาพที่ไม่ค่อยพบเห็นกันในหนังสือเล่มใด โดยมีการเว้นช่องว่างสีขาวเป็นกรอบ หรือรูปภาพมืดๆ และบางครั้งตัวอักษรต่วย-ตูนที่มีการเน้นหนัก ก็จะมีภาพสีสว่าง สดใสมาช่วยให้สว่างขึ้น แต่เมื่มีอภาพถ่ายหรือภาพประกอบสีทึม ต่วย-ตูนก็จะมีการวางตัวหนังสือชิ้นเล็กๆหลายชิ้นประกอบเข้าไป และเว้นช่องไฟสีขาวโดยรอบเยอะขึ้น
ที่มาของภาพ : http://book-d-d.tarad.comproduct.detail_668723_th_3422353
ความเรียบง่าย (Simplicity) ขององค์ประกอบในการจัดภาพของต่วย-ตูนสามารถสื่อความหมายได้ตามที่ต้องการ แม้ว่าตัวอักษร หรือข้อความบนปกจะมีมากมาย แต่ด้วยการจัดวางที่เรียบง่าย โดยส่วนใหญ่ดิฉันเห็นว่า ต่วย- ตูน มักจะย่อกลาง คือ มีภาพอยู่ตรงกลาง และข้อความก็จัดให้อยู่ตรงกลางเช่นกัน ซึ่งเป็นการจัดภาพที่ไม่ซับซ้อน ดูเรียบง่าย และเข้าใจง่าย ถึงแม้ว่า นักออกแบบจะสามารถออกแบบให้ผลงานสวยงามหรูหราเพียงใด แต่หากไม่สามารถสื่อความหมายได้ตามที่ต้องการก็สูญเปล่า ดังนั้น หลักความเรียบง่ายของการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ก็เพื่อให้ง่ายต่อการรับรู้ของผู้อ่านนั่นเอง
ที่มาของภาพ : http://kreebook.tarad.comproduct.detail_860446_th_3080175
ในเรื่องของความสัมพันธ์ของขนาด รูปร่างขององค์ประกอบ และความสัมพันธ์ระหว่างด้านกว้างและด้านยาวของสิ่งพิมพ์หรือความมีสัดส่วน (Proportion) ต่วย-ตูน จะมีการเว้นระยะขอบทั้งด้าน และด้านล่าง โดยความคิดส่วนตัวของดิฉันคิดว่า นั่นอาจเป็นเพราะด้วยรูปแบบของการมีกรอบรูปภาพจึงทำให้ต้องมีการตีกรอบขึ้น และดูเหมือนว่าเป็นการเว้นระยะขอบทั้งสี่ด้านให้ดูสวยงาม เรื่องของตัวอักษร รูปภาพ ก็มักจะไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง
และอีกอย่างคือเรื่องของทิศทาง ระยะตำแหน่งขององค์ประกอบ การวางองค์ประกอบมูลฐานทางศิลปะที่จะก่อให้เกิดความรู้สึกเคลื่อนไหวต่อเนื่องให้แก่ผู้อ่าน ไล่ลงมาตั้งแต่คำว่า “ต่วย-ตูน” การออกแบบจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าจะต้องอ่านลงมาอย่างเป็นลำดับ ทั้งในส่วนของตัวอักษรและช่องไฟมีจัดออกมาได้ลงตัวเป็นอย่างดี







